โรงพยาบาลธนบุรี ตรัง Thonburi Trang

Call Center : 075 215 215

อันตรายจากการหกล้มในผู้สูงอายุ

อันตรายจากการหกล้มในผู้สูงอายุ
 

อันตรายจากการหกล้มในผู้สูงอายุ: เข้าใจ ป้องกัน และดูแลอย่างถูกวิธี

การหกล้มในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียความสามารถในการเดิน หรือแม้แต่ชีวิตได้ จากสถิติในประเทศไทย พบว่าผู้สูงอายุเกินครึ่งเคยประสบเหตุหกล้มอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในบ้านของตนเอง

บทความนี้จัดทำโดย โรงพยาบาลธนบุรีตรัง เพื่อให้ความรู้ในการ ป้องกัน ดูแล และฟื้นฟู ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงหกล้ม พร้อมแนะแนวทางรักษาอย่างปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีภาวะกระดูกและข้อเสื่อม


ทำไมผู้สูงอายุถึงหกล้มได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

การหกล้มเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ “เดินพลาด” แต่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมของร่างกายและสภาพแวดล้อมรอบตัว

ปัจจัยภายใน

  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง: เมื่ออายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อลดลง ทำให้ทรงตัวยาก

  • การทรงตัวแย่ลง: ระบบประสาทและหูชั้นในเสื่อม ทำให้รู้สึกเวียนหัวบ่อย

  • สายตาพร่ามัว: การมองเห็นไม่ชัดทำให้ประเมินระยะผิดพลาด

ปัจจัยภายนอก

  • พื้นบ้านลื่นหรือมีสิ่งกีดขวาง

  • แสงสว่างไม่เพียงพอในทางเดิน

  • ไม่มีราวจับในห้องน้ำหรือบันได


อันตรายที่ซ่อนอยู่จากการหกล้มในผู้สูงอายุ

การหกล้มอาจนำไปสู่ภาวะกระดูกหัก โดยเฉพาะ กระดูกสะโพกหักและข้อเข่าชำรุด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการเคลื่อนไหวในผู้สูงอายุ

นอกจากบาดเจ็บทางกายแล้ว ยังมีผลทางจิตใจ เช่น

  • ความกลัวที่จะล้มอีกครั้ง

  • ความเครียดและซึมเศร้า

  • สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน


สัญญาณเตือนก่อนการหกล้ม

ควรสังเกตอาการต่อไปนี้ในผู้สูงอายุ:

  • เดินไม่มั่นคง หรือขาอ่อนแรง

  • เวียนศีรษะบ่อย

  • มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตต่ำ


วิธีป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

การออกกำลังกายเสริมความแข็งแรง

เช่น เดินช้า ๆ ยกขา ยืดกล้ามเนื้อ หรือฝึกทรงตัวบนขาข้างเดียว
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของขาและระบบประสาท

การปรับสภาพแวดล้อมในบ้าน

  • ติดราวจับในห้องน้ำ

  • ใช้พื้นกันลื่น

  • จัดของให้เป็นระเบียบ และเพิ่มแสงสว่างเพียงพอ


เมื่อเกิดการหกล้ม ควรทำอย่างไร

  1. อย่าพยายามลุกทันที หากมีอาการเจ็บ ควรเรียกขอความช่วยเหลือ

  2. ตรวจสอบอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะบริเวณสะโพก ขา และศีรษะ

  3. รีบพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยว่ามีกระดูกหักหรือไม่


การรักษาและฟื้นฟูหลังการหกล้ม

ในกรณีที่เกิดกระดูกหักหรือข้อเสื่อม แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วย

  • กายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหว

  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือข้อสะโพกเทียม สำหรับผู้ที่ข้อเสื่อมรุนแรง

โรงพยาบาลธนบุรีตรัง มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อเข่าและสะโพก พร้อมเทคโนโลยีผ่าตัดที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถกลับมาเดินได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยอีกครั้ง


FAQ: คำถามที่พบบ่อย

1. ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายแบบใดเพื่อลดการหกล้ม?
แนะนำการเดินช้า ๆ หรือโยคะเบา ๆ เพื่อเสริมการทรงตัวและกล้ามเนื้อขา

2. ถ้าผู้สูงอายุหกล้มควรพาไปโรงพยาบาลทันทีไหม?
ควรรีบพาไปพบแพทย์ แม้ไม่มีบาดแผล เพราะอาจมีกระดูกหักภายใน

3. การเปลี่ยนข้อเข่าเทียมอันตรายหรือไม่?
ปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้การผ่าตัดปลอดภัยและฟื้นตัวเร็ว

4. หกล้มบ่อย ๆ เป็นสัญญาณของโรคอะไรไหม?
อาจเกี่ยวกับระบบประสาท กล้ามเนื้อ หรือสมอง ควรเข้ารับการตรวจ

5. จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้สูงอายุมีความเสี่ยงหกล้ม?
สามารถประเมินจากการเดินช้าไม่มั่นคง หรือมีโรคประจำตัวที่กระทบสมดุล

6. โรงพยาบาลธนบุรีตรังมีบริการดูแลผู้สูงอายุหลังหกล้มหรือไม่?
มีทั้งโปรแกรมฟื้นฟูร่างกายและการดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านข้อและกระดูก


สรุป

“การหกล้ม” ในผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องเล็ก การป้องกันและดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย และมีความสุขในทุกย่างก้าว
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษา กระดูกหัก ข้อเสื่อม หรือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ โรงพยาบาลธนบุรีตรัง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์โรงพยาบาลธนบุรีตรัง